"พระมงคลมิ่งเมือง แหล่งรุ่งเรืองเจ็ดลุ่มน้ำ
งามล้ำถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เทพนิมิตรพระเหลา
เกาะแก่งเขาแสนสวย เลอค่าด้วยผ้าไหม
ราษฎร์เลื่อมใสใฝ่ธรรม "

พระมงคลมิ่งเมือง (เป็นพระที่อยู่ในโครงการไหว้พระ ๙ วัด เสริมอำนาจบารมี ที่อำนาจเจริญ)ประดิษฐานอยู่ในบริเวณพุทธอุทยาน ถนนชยางกูร ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองฯ จังหวัดอำนาจเจริญ มีพุทธลักษณะตามอิทธิพลของศิลปะอินเดียเหนือ แคว้นปาละ หน้าตัก กว้าง ๑๑ เมตร ส่วนสูงวัดจากพื้นดินถึงยอดเปลว ๒๐ เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวนอกฉาบปูนบุด้วยกระเบื้องโมเสก สีทอง ก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๖ แล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ จัดทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก เมื่อ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๘
ความเชื่อและศรัทธา พระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุพระสารีริกธาตุ ที่ได้รับมาจากประเทศอินเดียไว้ที่องค์พระ และล่ำลือกันว่าใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรพระมงคลมิ่งเมือง ซึ่งถือเสมือนการได้ไปกราบไหว้พระสารีริกธาตุที่ประเทศอินเดีย เป็นการเสริมมงคลแก่ชีวิต มีความเจริญก้าวหน้า มีอำนาจวาสนา และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นหลักชัยในบ้านเมือง

ตั้งอยู่ที่ ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง มีเนื้อที่ 35 ไร่ 13 ตารางวา ภายในสวนมิ่งเมือง เฉลิมพระเกียรติ เป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินเปิดศาล หลักเมือง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2544

วัดถ้ำแสงเพชร วัดถ้ำำแสงเพชร หรือศาลาพันห้องเป็นศาลาอยู่ยอดเขาสูงทิศเหนือมีถ้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปสวยงาม ต่อมาเมื่อปี 2511 หลวงปู่ชา (วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี) ได้มาพำนักบำเพ็ญธรรมที่ถ้ำพระใหญ่ 5 คืนถ้ำแสงเพชร เป็นสำนักสงฆ์ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวัดหนองป่าพง มีการพัฒนาสิ่งต่าง ๆมากมาย มีการตัดถนนทางราดยางถึง มหาวิหาร กว้าง 28 เมตร ยาว 60 เมตร โดยพื้นชั้นล่างเป็นแทงค์เก็บน้ำฝนไว้ใช้หน้าแล้งและทำให้วิหารมีบรรยากาศเย็น ข้างมหาวิหารมีพระพุทธไสยาสน์ ยาว 19 เมตร มีพุทธลักษณะที่สวยงาม และเจดีย์สถูปภายในมีรูปปั้นเหมือนของหลวงปู่ชา และภาพเขียนฝาผนังสีน้ำพุทธประวัติสวยงามมาก ห่างจากจังหวัดไปทาง อ.ปทุมราชวงศา 11 กม.


วัดพระเหลาเทพนิมิต
พระเหลาเทพนิมิต เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดพระเหลาเทพนิมิต อ.พนา สร้างด้วยอิฐถือปูน ลงรักปิดทองสูง 2.70 เมตร หน้าตักกว้างเล่าลือกันในหมู่ชาวบ้านไม่รู้จบสิ้น เป็นที่เคารพนักถือของประชาชนชาวพุทธทั่วไปนานกว่า 200 ปี นักโบราณคดีจากกรมศิลปากรสันนิษฐษนว่า ทั้งโบสถ์และองค์พระประธานเป็นสถาปัตยกรรมในศิลปะลาวมีอายุราว พ.ศ.2263 เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 3 ของทุกปี ซึ่งถือกันว่าเป็นเทศกาลปิดทองอค์พระเหลาเทพนิมิต จะมีพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันมาบำเพ็ญบุญและแก้บน โดยนำปราสาทผึ้งมาทอดถวาย นำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะ กลายเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาิมิได้ขาด แม้ในวันธรรมดาก็มีผู้นิยมศรัทธาเลื่อมใสมานมัสการเป็นประจำ
พระเหลาเทพนิมิต (เป็นพระที่อยู่ในโครงการไหว้พระ ๙ วัด เสริมอำนาจบารมี ที่อำนาจเจริญ) พระเหลาเทพนิมิต ประดิษฐานในอุโบสถวัดพระเหลาเทพนิมิต ตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยในสกุลศิลปะลาว สกุลช่างเวียงจันทน์ หล่อปูนลงรักปิดทอง สร้างขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ. ๒๒๖๓ กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะ งดงามที่สุดองค์หนึ่งใน ภาคอีสาน ช่างที่สร้างเศียรพระคือซาพรหม ซึ่งเชื่อว่ามีเทวดาลงมาช่วยในการก่อสร้าง ทำให้องค์พระมีความงดงาม กลมกลึงประดุจการหล่อเหลาด้วยมือของเทวดา ความเชื่อและศรัทธามีคำเล่าลือกันว่าทุกคืนวันพระ จะปรากฏลำแสง ลอยออกจากอุโบสถในเวลาเงียบสงัด และเชื่อกันว่าใครที่ได้มากราบไหว้พระเหลาเทพนิมิตจะพบแต่ความสุขสบาย เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้บังคับบัญชา มีวาสนาสูงส่ง เป็นที่รักและเคารพนับถือแก่คนทั่วไป

วัดดงเฒ่าเก่า บ้านหนองเรือ ตำบลนาหมอม้า อำเภอเมืองอำนาจเจริญ เป็นแหล่งที่มีการปักเสมาในพื้นที่กว้าง มีการสลักลวดลายนูนตำ่เป็นรูปดอกไม้ รูปหม้อนำ้ และตอนบนเป็นรูปวงกลมคล้ายธรรมจักร มีอายุไม่น้อยกว่าพุทธศตวรรษที่ 12-13 และยังพบพระพุทธรูปหินทรายแบบทวารวดีตอนปลายด้วย

พระเจ้าใหญ่พระศรีเจริญ (เป็นพระที่อยู่ในโครงการไหว้พระ ๙ วัด เสริมอำนาจบารมี ที่อำนาจเจริญ)ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดพระศรีเจริญ ตำบลหัวตะพาน อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ มีพุทธลักษณะแบบศิลปะล้านช้าง ปางมารวิชัย หล่อด้วยปูน ลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง ๑.๓๐ เมตร ส่วนสูงจากพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ ๒ เมตร สร้างมาประมาณ ๗๕๐ ปี เคยปรากฏอภินิหารเกิดขึ้นให้เห็นหลายครั้ง คือ มีประกายรัศมี ออกจากองค์พระเป็นแสงสุกใสล่องลอยไปที่โคนต้นโพธิ์ ด้านหน้าอุโบสถ ความเชื่อและศรัทธาความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญเป็นที่เลื่องลือถึงความความแคล้วคลาดใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรหรือมีพระเครื่องพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ จะเดินทางไปมาค้าขายแคล้วคลาดปลอดภัย ในอดีตมีทหารที่เดินทางไปสู้รบในสงครามนำพระเครื่องพระเจ้าใหญ่พระศรีเจริญติดตัวไปด้วย และรอดชีวิตกลับมาทุกคน จนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานมาจนปัจจุบัน


จังหวัดอำนาจเจริญ ยินดีต้อนรับทุกท่าน ที่อยากจะไปท่องเที่ยว และ เยี่ยวชมวิถีชีวิตพื้นบ้านของคนในท้องถิ่น รับรองว่า ถ้าใครได้ไปเยี่ยมชมแล้ว จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนนะครับ
พาไปทัวร์หน่อยสิจ๊ะเธอ...
ตอบลบอิอิ
มีแต่วัดอ่ะ อีกนานมั้ยกว่าจาถึง
ตอบลบมีน่า เทอถึงไม่ค่อยกลับบ้าน!!
อยาก ปัย
ตอบลบอยาก ปัย
อยากไปแว๊นอ่ะ
ตอบลบไว้กลับบ้านเมื่อไหร่
บอกด้วยน๊า
หุหุ